
Weekend Walk พาเดินเล่นรับลมหนาวที่ ‘ท่าแพ’
เรื่อง: ปฏัก พาโนมัย
18 เมษายน 2568
Weekend Walk รอบนี้ลมหนาวพัดเราขึ้นเหนือไปเดินต๊ะต่อนยอนที่ ‘ถนนท่าแพ’ ถนนสำคัญอีกหนึ่งสายของเชียงใหม่ที่ทอดตัวยาวจากริมฝั่งแม่น้ำปิง ต้นสะพานนวรัฐไปจนถึงประตูท่าแพ ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจทำให้มีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติเข้ามาตั้งถิ่นฐานเพื่อค้าขาย ทำให้ท่าแพเป็นย่านที่มีเอกลักษณ์ทั้งในด้านสถาปัตยกรรม ประเพณี วัฒนธรรมและผู้คนจนถึงปัจจุบัน
พอถึงช่วงปลายปี หลายคนคงเริ่มคิดถึงลมหนาวที่ภาคเหนือกันแล้ว Weekend Walk รอบนี้ เราเลยพาทุกคนไปเดินต๊ะต่อนยอนที่ ‘ถนนท่าแพ’ ถนนสำคัญอีกหนึ่งสายของเชียงใหม่ที่ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจจนมีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติเข้ามาตั้งถิ่นฐานเพื่อค้าขาย เกิดการผสมผสานวัฒนธรรมซึ่งทำให้ท่าแพเป็นย่านที่มีเอกลักษณ์ทั้งในด้านสถาปัตยกรรม ประเพณี วัฒนธรรมและผู้คนจนถึงปัจจุบัน
บนถนนท่าแพทุกวันนี้ มีทั้งวัดสวยๆ และตึกเก่าแก่อายุมากกว่าร้อยปีหลายแห่งที่ถูกเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ไปตามยุคสมัย บางแห่งเป็นร้านอาหาร ที่แฮงเอาต์ของคนรุ่นใหม่ หรือบางแห่งก็เป็นพื้นที่ศิลปะ ซึ่งเราจะพาทุกคนไปรู้จักในคลิปนี้
เริ่มที่ ศูนย์ศิลปบ้านตึก คือตึกโคโลเนียลที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัดอุปคุต เมื่อก่อนคือบ้านของ ‘หลวงอนุสารสุนทร’ คหบดีชาวเชียงใหม่ ปัจจุบันกลายเป็นพื้นที่ศิลปะที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเวทีสำหรับแสดงผลงานของศิลปินรุ่นใหม่หรือหน้าใหม่ รวมถึงเป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรมทางศิลปะสำหรับเยาวชนและคนทั่วไปที่สนใจ
ไม่ไกลกันคือ ‘อาคารหย่งเชียง’ อาคารเก่าแก่อายุ 120 ปี ปัจจุบันคือ Museum of Broken Relationships หรือ พิพิธภัณฑ์แห่งการจากลา ที่เพิ่งเปิดให้เข้าชมได้ไม่นาน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รับบริจาคสิ่งของที่เป็นเศษซากจากความสัมพันธ์ของคู่รักเพื่อนำมาจัดแสดงพร้อมเรื่องราวที่อ่านแล้วได้เห็นมุมมองที่หลากหลายของความสัมพันธ์
ต่อกันที่ Maadae (มาเด) Slow Fish Kitchen ร้านอาหารไทย-ปักษ์ใต้แนว Slow Food หรืออาหารที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ในท้องถิ่น ที่ใช้วัตถุดิบส่งตรงจากประมงพื้นบ้านในพื้นที่จังหวัดชุมพร อร่อยสไตล์โฮมคุกกิ้ง ร้านเปิดวันละ 2 รอบสำหรับมื้อกลางวันและมื้อเย็นโดยเมนูแต่ละมื้อจะไม่เหมือนกัน
ช่วงเย็นๆ ที่หน้าวัดมหาวันจะมีโรตีรถเข็นเจ้าของรางวัลบิบ กูร์มองด์ หรือ ‘ร้านอาหารอร่อยคุ้มค่าในราคาย่อมเยา’ โดยมิชลิน ไกด์ เชียงใหม่ ตั้งแต่ปี 2021 จนถึงปัจจุบัน มีเมนูให้สั่งมากกว่า 20 อย่างทั้งโรตีคาวโรตีหวานสารพัดหน้า มะตะบะ ฯลฯ เคล็ดลับความอร่อยคือแป้งต้องไม่ใส่ไข่และทอดด้วยน้ำมันมะพร้าวโดยใช้ไฟอ่อนเท่านั้น
จุดเช็กอินสุดท้ายต้องเป็นบาร์เท่านั้น ซึ่งแถวประตูท่าแพก็มี Midlife Crisis CNX ค็อกเทลบาร์เจ้าของเดียวกับ Midlife Crisis BKK บาร์ที่ขอเป็นพื้นที่เยียวยาปัญหาของทุกคนด้วยเครื่องดื่ม ตอนนี้ร้านเพิ่งปล่อยเมนูใหม่ออกมาในคอนเซ็ปต์ Move to the New Blue ความน่าสนใจก็คือการนำวัตถุดิบท้องถิ่นของเชียงใหม่มาเป็นส่วนผสมเป็นครั้งแรก



จุดเช็กอินยามค่ำคืนที่ห้ามพลาดในย่านท่าแพก็คือ Midlife Crisis CNX ค็อกเทลบาร์เจ้าของเดียวกับ Midlife Crisis BKK โดยทีมงานคุณภาพนำโดยบาร์เทนเดอร์มากประสบการณ์อย่าง ‘กอล์ฟ-กิติบดี ช่อทับทิม’ ร้านเปิดตัวในช่วงโควิด-19 ซึ่งเป็นช่วงที่ชีวิตทุกคนกำลังเผชิญกับวิกฤตหนัก และนั่นก็กลายเป็นที่มาของชื่อร้านที่มาพร้อมความตั้งใจที่จะเป็นมากกว่าบาร์ แต่ขอเป็นพื้นที่เยียวยาปัญหาของทุกคนที่แวะเข้าไปนั่งจิบเครื่องดื่มในร้านด้วย ล่าสุดร้านเพิ่งปล่อยเมนูใหม่ออกมาในคอนเซ็ปต์ Move to the New Blue ความน่าสนใจก็คือการนำวัตถุดิบท้องถิ่นของเชียงใหม่มาเป็นส่วนผสมเป็นครั้งแรก
Midlife Crisis CNX
เปิดทุกวัน 18:00-00:30


โรตีรถเข็นหน้าวัดมหาวันร้านนี้คือเจ้าของรางวัลบิบ กูร์มองด์ หรือ ‘ร้านอาหารอร่อยคุ้มค่าในราคาย่อมเยา’ โดยมิชลิน ไกด์ เชียงใหม่ ไม่แปลกใจเลยที่ลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะยืนมุงร้านกันเนืองแน่นเป็นประจำทุกคืน ที่ร้านมีเมนูให้สั่งมากกว่า 20 อย่างทั้งโรตีคาวโรตีหวานสารพัดหน้า มะตะบะ ฯลฯ เคล็ดลับความอร่อยของป้าเดคือแป้งต้องไม่ใส่ไข่และทอดด้วยน้ำมันมะพร้าวโดยใช้ไฟอ่อนเท่านั้น
โรตีป้าเด
เปิดทุกวัน 18:00-00:00

พอเจออากาศเย็นๆ ของเชียงใหม่แล้ว ก็อดแวะนั่งจิบเครื่องดื่มกับขนมปังปิ้งอุ่นๆ ที่ร้านติ๋มนมสด สาขาเชียงใหม่ ไม่ได้จริงๆ เป็นร้านริมทางบรรยากาศน่ารัก หน้าร้านจะตั้งเตาถ่านสำหรับปิ้งขนมปังเรียกลูกค้าไปด้วย ส่วนโต๊ะเก้าอี้ที่ร้านจะใช้เป็นชุดโต๊ะเก้าอี้ไม้เหมือนที่หลายคนเคยนั่งเรียนตอนเด็กๆ เลย คลาสสิกสุดๆ เมนูเครื่องดื่มมีให้สั่งทั้งนม ชา และเครื่องดื่มผสมโซดา ส่วนปังปิ้งก็จะเป็นขนมปังสอดไส้ มีให้เลือกสารพัดอย่าง
ติ๋มนมสด
เปิดทุกวัน 17:30-23:30

แหล่งแฮงเอาต์ที่ครบทั้งเรื่องกินดื่มและดนตรีแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งร้านที่ทำให้ถนนท่าแพในยามค่ำคืนดูมีชีวิตขึ้นมา ร้านตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เคยเป็นโรงเลื่อยจริงๆ มาก่อน เจ้าของคนปัจจุบันเลยนำมาตั้งเป็นชื่อร้าน ส่วนตัวอาคารก็ผ่านการรีโนเวตแต่ยังคงกลิ่นอายของการเป็นโรงเลื่อยไว้ด้วยการนำเครื่องไม้เครื่องมือช่างมาตกแต่ง ดูภายนอกอาจจะเข้าใจว่าร้านเล็กๆ แต่จริงๆ แล้วมีโซนเอาต์ดอร์ซ่อนอยู่ด้านในที่นั่งกันได้หลายโต๊ะเลย อาหารจานเด็ดของที่นี่ก็คืออาหารเหนือที่คนเมืองการันตีเองว่ารำทุกจาน
โรงเลื่อยท่าแพ
เปิดทุกวัน 17:30-00:00

ตึกเก่าหลังงามคู่ถนนท่าแพแห่งนี้ ปัจจุบันมีอายุราว 136 ปีแล้ว แรกก่อสร้างที่นี่คือห้างสรรพสินค้าของชนชั้นสูงในแถบนี้ ก่อนจะเปลี่ยนบทบาทหน้าที่พร้อมกับเปลี่ยนมือผู้ดูแลเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันซึ่งอยู่ในความดูแลของทายาทรุ่นที่ 5 และได้เปลี่ยนเป็นตึกนี้เป็นร้านอาหารล้านนาที่นำเสนอรสชาติและภูมิปัญญาในครัวภาคเหนือผ่านจานเด็ดทั้งคาวและหวาน
กิติพานิช
เปิดทุกวัน 11:30-15:00 และ 17:00-22:00



North Country อีกหนึ่งบาร์ของ ‘ก้อง-อนุภาส เปรมานุวัติ’ แห่ง Ku Bar บาร์ดีย่านพระนคร ที่ไม่มีอะไรซับซ้อนมากไปกว่าการอยากเสิร์ฟเครื่องดื่มดีๆ สักแก้วให้ลูกค้าได้เข้ามานั่งจิบ นั่งคุยกันในบรรยากาศสบายๆ ร้านโล่งๆ แต่สวยอย่างมีระดับ ก่อนหน้านี้ร้านอยู่อีกที่และเพิ่งย้ายโลเคชั่นใหม่มาอยู่บนชั้น 2 ของตึกกิติพาณิช และเพิ่งกลับมาเปิดให้บริการได้ไม่นาน
North Country
เปิดทุกวัน 19:00-00:00


ร้านอาหารของ ‘เยาวดี ชูคง’ นักขับเคลื่อนด้านอาหารและเจ้าของร้านอาหารแนว Slow Food (หรืออาหารที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ในท้องถิ่น) อีกหลายแห่ง ซึ่ง Maadae Slow Fish Kitchen ก็เป็นร้านอาหารแนวนั้นเหมือนกันโดยเสิร์ฟอาหารไทย-ใต้ที่ใช้วัตถุดิบส่งตรงจากประมงพื้นบ้านในพื้นที่จังหวัดชุมพร ร้านเปิดวันละ 2 รอบสำหรับมื้อกลางวันและมื้อเย็นโดยเมนูแต่ละมื้อจะไม่เหมือนกัน
Maadae Slow Fish Kitchen
เปิดทุกวัน 11:00-14:00 และ 17:00-21:00



ในขณะที่เราคุ้นเคยกับสาเกของญี่ปุ่นหรือโซจูของเกาหลี แต่เราแทบไม่เคยชิมสาโทที่เป็นภูมิปัญญาไทยเลย นี่คือที่มาของ Enki บาร์สาโทที่ทางร้านเคลมว่าตอนนี้เป็นเจ้าเดียวในไทย โดยที่ร้านจะใช้สาโทเป็นส่วนผสมที่ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมรสชาติต่างๆ ของเครื่องดื่มให้มีคาแร็กเตอร์ที่น่าค้นหามากยิ่งขึ้น เจ้าของร้านคือ ‘ลี่-ชุติทัศน์ เกลื่อนประถม’ อดีตฟู้ดดีไซเนอร์ที่เคยทำวิจัยเกี่ยวกับข้าวและนำข้าวไปต่อยอดฝั่งอาหารมาแล้ว เลยอยากลองนำข้าวมาทำอย่างอื่นดูบ้าง
Enki
เปิดวันจันทร์-วันเสาร์ 18:00-00:00



จุดเริ่มต้นของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มาจากการเลิกราของคู่รักศิลปินชาวเมืองซาเกร็บอย่าง Olinka Vištica และ Dražen Grubišić โดยทั้งคู่ไม่รู้จะจัดการกับตุ๊กตากระต่ายน้อยแทนใจยังไง เพราะผูกพันธ์เกินกว่าจะทิ้ง และเจ็บปวดเกินกว่าจะทนเห็น พวกเขาตัดสินใจสร้างพื้นที่หนึ่งขึ้นมาเพื่อเก็บตุ๊กตาที่บรรจุความทรงจำร่วมกันระหว่างเขาและเธอ เริ่มด้วยรูปแบบนิทรรศการเคลื่อนที่ที่นำไปจัดแสดงใน 64 เมืองทั่วโลกคราวละ 3-6 เดือน ร่วมกับของบริจาคจากคู่รักหัวอกเดียวกัน ก่อนจะเปิดพิพิธภัณฑ์แห่งแรกที่เมืองซาเกร็บในปี ค.ศ. 2010
จากนั้นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งได้เดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่แล้วรู้สึกตกหลุมรักเพราะมีบรรยากาศคล้ายเมืองซาเกร็บจึงตัดสินใจก่อตั้งพิพิธภัณฑ์อีกแห่งเพื่อเป็นฮับสำหรับรับบริจาคข้าวของในโซนเอเชีย
พิพิธภัณฑ์แห่งการจากลา เชียงใหม่ ตั้งอยู่ใน ‘อาคารหย่งเชียง’ อาคารเก่าแก่อายุ 120 ปี ใกล้กับตลาดวโรรสหรือกาดหลวงของชาวเชียงใหม่ บนหัวมุมที่เชื่อมต่อระหว่างถนนสามสาย ได้แก่ ถนนวิชยานนท์ทางทิศเหนือ ถนนท่าแพทางทิศตะวันออก และถนนช้างคลานทางทิศใต้ โดยใช้พื้นที่ทั้งสองชั้นของอาคารในการจัดแสดงสิ่งของที่บรรจุเรื่องราวของความสัมพันธ์ที่แตกสลาย ไม่ใช่แค่คู่รัก แต่ยังรวมถึงความสัมพันธ์รูปแบบอื่นๆ ทั้งครอบครัว เพื่อน หรือแม้แต่ความสัมพันธ์ระดับประเทศชาติ
Museum of Broken Relationships
เปิดทุกวัน 10:00-22:00


ศูนย์ศิลปบ้านตึก คือตึกโคโลเนียลที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัดอุปคุต เมื่อก่อนคือบ้านของ ‘หลวงอนุสารสุนทร’ คหบดีชาวเชียงใหม่ ปัจจุบันกลายเป็นพื้นที่ศิลปะที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเวทีสำหรับแสดงผลงานของศิลปินรุ่นใหม่หรือหน้าใหม่ รวมถึงเป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรมทางศิลปะสำหรับเยาวชนและคนทั่วไปที่สนใจ
Baan Tuek Art Center
เปิดวันอังคาร-วันอาทิตย์ 10:00-20:00
