
50 ปี Tiffany’s Show: เมื่อคาบาเรต์ในตำนานเติบโตเป็นโชว์มิวสิคัลแห่งความฝัน
เรื่อง: Spreads BKK
13 พฤศจิกายน 2568
กว่า 6 ทศวรรษแห่งการเติบโตของ “พัทยา” เมืองชายหาดและธุรกิจไนต์ไลฟ์ของจังหวัดชลบุรี มีเรื่องราวการเดินทางของ Tiffany’s Show คาบาเรต์โชว์ของสาวข้ามเพศแห่งแรกในเมืองไทยร่วมทางมาโดยตลอด
Tiffany’s Show เริ่มโชว์ครั้งแรกในปี 2517 และโชว์ต่อเนื่องมาจนครบรอบ 50 ปีไปเมื่อปีที่แล้ว เป็นโอกาสที่ทำให้ Tiffany’s Show ตัดสินใจยกเครื่องโชว์ใหม่หมดเป็นครั้งแรก พร้อมเปิดตัวการแสดงชุดใหม่ที่ตั้งใจลบภาพจำการเป็น ‘คาบาเรต์โชว์กะเทย’ และมุ่งหน้าสู่การนำเสนอโชว์ที่เน้น ‘ความเป็นตัวตนของตัวเอง’ ให้ถึงที่สุด โดยการแสดงชุดนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “Crystalize A Dream”

“Crystalize A Dream คือโชว์ที่เราเชื่อว่าทุกคนมีความฝันที่สามารถทำให้สำเร็จได้ถ้าเราตั้งใจ แม้ทุกคนจะมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศอะไร รูปร่างแบบไหน เป็น Transgender หรือไม่เป็น เราก็ต้องทำในสิ่งที่ตัวเองฝันไว้ให้ได้” จ๋า-อลิสา พันธุศักดิ์ คุนผลิน ทายาทรุ่นที่ 2 ของ Tiffany’s Show เล่าคอนเซปต์โชว์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา
การเติบโตของ Tiffany’s Show เป็นผลแห่งความสำเร็จของการบริหารงานของคนสองรุ่น นั่นคือ สุธรรม พันธุศักดิ์ คุณพ่อของคุณจ๋าที่เป็นนักธุรกิจยุคบุกเบิกของพัทยา ผู้ก่อตั้งโรงแรม Woodlands Hotel & Resort และโรงละคร Tiffany’s Show ที่รับช่วงต่อมาทำก่อนย้ายมาตั้งสถานที่ใหม่บนถนนพัทยาสาย 2 สมัยที่ยังเป็นถนนลูกรัง ก่อนจะทำการตลาดในต่างประเทศด้วยตัวเองเพื่อดึงชาวต่างชาติเข้ามาดูโชว์ของสาวทรานส์เจนเดอร์แห่งแรกในพัทยา
พอมาถึงมือคุณจ๋า เธอก็ต่อยอด Tiffany’s Show ผ่านการประกวด Miss Tiffany และ Miss International Queen ที่ไม่เพียงแต่เป็นเวทีสร้างศักยภาพและสร้างความเท่าเทียมให้กับเพศทางเลือกเท่านั้น แต่ยังสร้างชื่อเสียงให้ Tiffany’s Show กลายเป็นหมุดหมายสำคัญจนมีผู้คนเดินทางมาชมโชว์จากทั่วโลก

วัยเปลี่ยน โชว์ก็ต้องเปลี่ยน
ก่อนครบรอบ 50 ปี คุณจ๋ารู้ตัวว่า ถึงเวลายกเครื่อง Tiffany’s Show เพื่อไปต่อในทศวรรษหน้า ช่วงโควิด-19 ทุกอย่างต้องหยุดชะงัก เธอจึงใช้เวลาตรงนี้เพื่อคิดและลงมือทำจริงจัง
“เราเริ่มเบื่อวิธีการคิดของตัวเอง เราไม่อยากทำอะไรซ้ำๆ กลัวว่าวัยเราไม่ใช่วัยที่จะรู้ว่าอะไรกำลังจะมา เราอาจจะเข้าใจสิ่งนี้ในช่วงวัย 30 กว่า แต่พอมามองตัวเราที่อายุจะ 50 แล้วเรายังต้องยอมรับความสำเร็จเดิมๆ อีกเหรอ”

“เราพูดกับน้อง ๆ ว่า Tiffany’s Show 50 ปีแล้ว เราจะทำโชว์ใหม่ เราจะคิดอะไรใหม่ๆ เพราะกว่าครบจะ 50 ปีมันก็ยากแล้ว และ 50 ปีควรจะเป็นหมุดหมายสำคัญที่เราต้องไม่เหมือนเดิม”
เธอจึงทำวิจัยแบบ focus group กับลูกค้า-ผู้ชม-ผู้กำกับของ Tiffany’s ซึ่งเธอก็ยอมรับว่าค่อนข้างยากและยังไม่เจอทางที่ใช่เสียที
“ตอนเราทำเนื้อเรื่องใหม่ พอคนทำเป็นผู้ชาย เรื่องราวก็ผู้ช้ายผู้ชาย พอคนสาวมาทำก็กะเท้ยกะเทย เราพยายามหาสิ่งใหม่เพราะเราอยากไปข้างหน้า ตอนนั้น HBO ก็ติดต่อเพื่อจะมาถ่ายโชว์เราด้วย แต่ก็โดนประกาศปิดโควิดต่ออีก จนในที่สุดเราก็ต้องบอก HBO ว่าหยุดเถอะ เพราะว่าทุกอย่างยังชะงักไม่กลับมาสักที สองปีกว่าแล้ว เราต้องหยุดก่อน แล้วสิ่งที่เราคิดไว้จะไม่เสียหาย เพราะเราได้หยุดคิดว่า เนื้อเรื่องนี้ใช่ หรือไม่ใช่สำหรับเรา”

หาแนวร่วมที่มองภาพเดียวกัน
ทิศทางมาลงตัวอย่างที่เธอต้องการตอนที่เธอตัดสินใจให้ อาร์ต-อารยา อินทรา ศิลปินและอาจารย์สายแฟชั่นมาทำงานร่วมกับผู้กำกับคู่โรงละครทิฟฟานี โป่ง-ศักดิพัฒน์ แสงสุริยงค์ จับมือกันสร้างโชว์ที่สะท้อนอัตลักษณ์ของ Tiffany’s Show ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา ให้ออกมาเป็นภาพที่ชัดเจนที่สุด
“เราดู Tiffany's Show มาตั้งแต่เด็ก มันก็จะมีเซนส์ของการใช้เพลง เราจะรู้เพลงว่าเพลงไหนมาทำเป็นโชว์ได้ อย่างเพลงของ Liza Minnelli หรือ Donna Summer ซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะรู้สิ่งนี้ ตอนแรกจ๋าให้พี่อาร์ตมาดูสไตลิ่งของ Miss Tiffany ซึ่งเขาเองก็มีเป้าหมายเดียวกับจ๋าในการทำงานคือการสร้างความเท่าเทียม ให้เกียรตินางงาม และสาวประเภทสอง ทำให้คน Look up to”

เธอกล่าวต่อว่า “เราอยากได้คนที่ไม่พูดว่า Tiffany's Show เป็นแค่ Transgender show เราอยากประทับตราคำว่า Tiffany's Show คือโชว์ของทิฟฟานี่ เราก็ต้องตีโจทย์ออกมาเป็นมิวสิก เป็นศิลปะให้มากที่สุด จนออกมาเป็นชื่อโชว์ ‘Crystalize A Dream’”
โชว์ “Crystalize A Dream” มีทั้งหมด 9 องก์ เริ่มต้นด้วย “Welcome to Tiffany’s” ซึ่งมีพัทยาเป็นฉากหลัง พาผู้ชมออกเดินทางไปกับความแฟนตาซีและจินตนาการ จัดเต็มทั้งคอสตูมและการเต้น บนเส้นเรื่องที่มุ่งจุดประกายสาวทรานส์ให้มีความหวังทำตามความฝันของตัวเองจนประสบความสำเร็จ

เพราะ “แตกต่าง” จึงครองใจ
การที่ Tiffany’s Show ยืนระยะความนิยมมาได้ยาวนานแม้จะอยู่มาถึง 50 ปีแล้ว คุณจ๋าเชื่อว่าเพราะทิฟฟานีเป็นพื้นที่แรก ๆ ที่เปิดโอกาสให้ทรานส์เจนเดอร์ได้มีพื้นที่แสดงความสามารถและตัวตนของตัวเอง เป็นพื้นที่แห่งความหลากหลาย—ความคิดสร้างสรรค์—ความแตกต่าง ที่อีกนัยหนึ่งช่วยขับเคลื่อนสังคมไปข้างหน้า
“ความแตกต่างคือบริบทที่เป็นบรรทัดฐานของความคิดทุกวันนี้ ยุคก่อนที่จ๋ายังเด็ก อาจจะอยู่ในยุคที่เป็น Typical คุณต้องเป็นอย่างนี้คนถึงจะยอมรับคุณได้ แต่วันนี้ความแตกต่างทำให้เกิดความเจริญ คุณต้องคิดต่างสิ ถึงจะมีสิ่งใหม่ในองค์กร หรือในสังคมที่คุณอยู่ ถ้าเราส่งเสริมความหลากหลายเราก็จะได้สิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมา”
ดังนั้นโชว์ที่เรียบเรียงขึ้นมาใหม่จึงตั้งใจจะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ชม โดยเฉพาะกับโชว์ “To Dream” ที่พูดถึงการทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง ซึ่งเป็นภาพสะท้อนสิ่งที่ Tiffany’s Show ทำมาตลอด นั่นคือการทำให้ความฝันของทรานส์ได้รับการยอมรับ
“Transgender เคยอยู่ในจุดที่คนไม่ยอมรับ แต่เรามาถึงในจุดนี้ได้ในความเป็นทิฟฟานี คือการที่ทำให้คนทั้งโลกมาดูเรา ทำให้ทุกคนได้เห็นคุณค่าของความหลากหลาย และความเท่าเทียม”

ก้าวต่อไปหลัง 50 ปี
ภายใต้การนำของคุณจ๋า Tiffany’s Show จะยังคงเปลี่ยนแปลงต่อไปตามยุคสมัย เธอไม่ยึดติดกับความสำเร็จในอดีต แต่ปรับตามฟีดแบ็กและความรู้สึกของผู้ชม
“สิ่งที่ Tiffany’s Show ทำวันนี้ก็เพื่อจะต่อยอดให้นักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามาเที่ยวพัทยาเพิ่มขึ้น แล้วก็อยากให้พัทยามีมุมมองใหม่ ๆ ที่เป็น Family target นักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ สามารถเลือกชมในสิ่งที่มีคุณค่า”
เธอสรุปว่า “เราต้องคิดตลอดเวลาว่าเราจะอยู่ยังไงให้นักท่องเที่ยวเลือกเราไปเรื่อย ๆ ต้องพัฒนาคุณภาพการแสดงให้เขาได้อะไรกลับบ้านไปด้วย ตอนนี้เพิ่งโชว์ไปได้แค่เดือนเดียวก็เริ่มตัดชุดใหม่แล้ว”

_
Tiffany’s Show Pattaya
- เปิดการแสดง 3 รอบทุกวัน 18:00, 19:30, 21:00 น.
- สำรองที่นั่งได้ที่ www.tiffany-show.co.th
- โทร. (+66) 38-421-700
- อีเมล res@tiffany-show.co.th

เรื่อง
Spreads BKK


