ใช้ชีวิตแบบ ‘ฮุกกะ’ ที่ Copenhagen ปั่นจักรยาน กินเบเกอรี และนอนอาบแดด
18 เมษายน 2568
จากการสำรวจของ World Happiness Rankings ปี 2024 ‘เดนมาร์ก’ กลับมาทวงตำแหน่งเมืองที่ผู้คนมีความสุขมากที่สุดในโลก หลังจากที่ก่อนหน้านี้สลับกันชิงตำแหน่งอันดับ 1 กับ ‘ฟินแลนด์’ มาตลอดหลายปี นั่นทำให้เราตั้งใจเดินทางมาเที่ยว ‘โคเปนเฮเกน’ และทดลองใช้ชีวิตแบบ ‘ฮุกกะ’ ที่ว่ากันว่าเป็นสูตรสำเร็จของการทำให้คนเดนิชมีความสุขที่สุดในโลก
ก่อนมาเราได้อ่านหนังสือที่ชื่อว่า ‘The Little Book of Hygge’ หลายเรื่องในหนังสือทำให้เรามึนงงว่าคนเดนิชใช้ชีวิตแบบนี่จริงหรือ เมื่อมาสัมผัสจริงบอกเลยว่ายิ่งกว่าในหนังสือ การจุดเทียนกลางวันแบบแสงแดดส่อง กินแป้งมากกว่าโปรตีน หรือแม้แต่แก้ผ้าทุกที่ที่มีแดด แต่นั่นแหละมันคือความสุขในช่วงเวลาสั้นๆ ของซัมเมอร์ที่คนเดนิชกอบโกยก่อนที่ความหนาวอันยาวนานจะมาแทนที่
คนที่เคยไปโคเปนเฮเกนน่าจะทราบว่า คนเดนิชเลือกที่จะปั่นจักรยานมากกว่าการใช้รถเมล์ไฟฟ้าและรถใต้ดิน เนื่องจากขนส่งสาธารณะราคาค่อนข้างแพง ที่สำคัญถนนหนทางก็สะดวกต่อการปั่นจักรยาน หรือแม้แต่เป็นเมืองที่เป็นมิตรกับคนเดินเท้า หรือ Walkable City อีกสิ่งที่เป็นปัจจัยที่ทำให้เมืองแห่งนี้มีความสุขที่สุดในโลกก็คือ รัฐสวัสดิการ ที่คนเดนิชได้รับหลังจากการจ่ายภาษีที่สูงในแต่ละปี รวมถึงการบริการจัดการขยะกับขยะของเมืองนี้ โดยมี Copenhill โรงเผาขยะที่ทำงานแทบจะตลอด 24 ชั่วโมง
ที่นี่ยังเป็นปลายทางของ Foodie ทั่วโลกที่ตั้งใจเดินทางมากินอาหารทั้งเบเกอรีดัง ไล่ไปจนถึงร้านอาหารมิชลินอันดับต้นๆ ของโลก แน่นอนว่า Weekend ได้ทำ To do list มาให้แล้วสำหรับคนที่กำลังวางแผนเดินทางไปโคเปนเฮเกน
Alchemist
ร้านอาหารมิชลิน 2 ดาว พ่วงมิชลินรักษ์โลก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในร้านอาหารจองยากร้านหนึ่งในโคเปนเฮเกน ที่มองผิวเผินเราจะเห็นว่าที่นี่ดูเหมือนร้านอาหารหรูทั่วไปที่ต้องใช้เวลากินยาวนานมากกว่า 5 ชั่วโมง แต่ถ้านั่งดูการฉายภาพอิมเมอร์ซีฟผ่านโดมของร้าน เราจะได้เห็นความพยายามของเชฟเจ้าของร้าน Rasmus Munk ที่พยายามบอกเล่าอีโคซิสเต็มของวงการอาหารที่สะท้อนออกมาพร้อมกับอาหารของเขาที่เชื่อว่า Peta น่าจะรักในไอเดียนี้ผ่านเมนูตีนไก่ หรือการจับมือเชิญชวนผู้คนไปบริจาคเลือดผ่าน QR บนขนมหยดเลือกที่เรายื่นความประสงค์บริจาคเลือดได้ น่าเสียดายที่ไม่มีของประเทศไทย
Bæst
ร้านพิซซาเรียที่ใครมาโคเปนเฮเกนต้องแวะมา มาที่นี่แนะนำให้สั่ง The BÆST Menu ที่คล้ายกับเทสติ้งเมนูที่ได้ทั้งโคลต์คัตและชีสที่ทางร้านทำเอง รวมถึงพิซซ่า ซึ่งทำให้ได้กินอาหารส่วนหนึ่งของร้านในคราวเดียว
Kiin Kiin Bao Bao
ร้านอาหารเอเชี่ยนในเครือเดียวกับร้านอาหารไทย Kiin Kiin ที่นี่เด่นเรื่องเมนคอร์ส อย่าง กวาเปาสไตล์ไต้หวัน มาที่นี่แนะนำให้เลือก Tasting Menu ที่มีทั้งสลัด ซุป เปา และของหวาน
Lille Bakery
ร้านเบเกอรีดังที่ต้องใช้ความพยายามเดินทางอยู่สักหน่อย เพราะอยู่ในโซน Refshalegen ใกล้กับ Reffen ตลาดนัดสตรีทฟู้ดที่เปิดเฉพาะฤดูร้อน ที่นี่เด่นเรื่องเบเกอรีที่ใช้วัตถุดิบส่งตรงจากฟาร์ม รวมถึงมีร้านชำที่ขายโยเกิร์ต แยม รวมถึงเนเชอรัลไวน์
Noma
ร้านอาหารอันดับ 1 ของโลกที่จะปิดตัวลงในปีนี้แล้วผันตัวไปเป็น Noma 3.0 เปลี่ยนจากร้านอาหารเดิมกลายเป็น Lab R&D หรือถ้าใครจองทัน Noma Kyoto ก็ขอแสดงความยินดีด้วย
Selma
ร้านอาหารรางวัล Bib Gourmand ที่เด่นเรื่องเมนู Smørrebrød หรือ แซนด์วิชหน้าเปิด ซึ่งร้านนี้จะทำออกมาในแบบโมเดิร์นมีทั้งขนมปังข้าวไรซ์ และซาร์วโดว์ ที่นำเอาเทคนิคการหมักดองปลาและผักมานำเสนอแซนวิชหน้าเปิด
ARKEN Museum of Contemporary Art
พิพิธภัณฑ์จัดแสดงงานศิลปะร่วมสมัยรอบนอกของโคเปนเฮเกน ที่นี่รวมเอาผลงานของศิลปินเดนิช นอร์ดิค และศิลปินร่วมสมัยจากนานาชาติมากมาย รวมถึงจัดแสดงนิทรรศการศิลปะหมุนเวียนที่มีไฮไลต์เปลี่ยนในทุกเดือน
Circle Bridge
หนึ่งในงานสถาปัตยกรรมที่เป็นแลนด์มาร์กของเมือง สะพานสำหรับการสัญจรของคนเดินทางและปั่นจักรยานที่วงกลมสามารถหมุนให้เรือผ่านเส้นทางนี้ได้
Cisternerne
แกลเลอรีที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ดินของสวน Søndermarken ซึ่งนำเอาโครงสร้างเดิมในฐานะแหล่งเก็บน้ำใต้ดินของเมืองมาใส่ไลท์ติ้งและซาวด์ ให้เราเดินชม รอบที่เราไปเป็นทางเดินเหนือน้ำประกอบแสงและเสียง แต่ก่อนหน้านั้นเป็นพื้นที่จัดอินสตอเรชันอาร์ตรวมถึงเทศกาลดนตรีที่ใช้พื้นที่ใต้ดิน
Grundtvig's Church
งานสถาปัตยกรรมแบบ Expressionism ผสมกับ Gothic ด้านนอกดูตันส่วนภายในมาในโทนสีขาวสว่างและดูอ่อนโยนแตกต่างจากภายนอกที่ดูแข็งแกร่ง
HAY House
Flagship Store ของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์สัญชาติเดนมาร์กที่ดังไกลถึงกรุงเทพฯ และเพิ่งเปิดช็อปของตัวเองในกรุงเทพฯ ไปเมื่อนานมานี้
La Banchina
คาเฟ่ที่มีสระว่ายน้ำและซาวน่า ที่นี่คือจุดที่คนนิยมมาแก้ผ้ามากที่สุดในฤดูร้อน เพราะมีพื้นที่คล้ายสระว่ายน้ำที่เชื่อมไปยังแม่น้ำได้ แน่นอนว่าเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยนที่นักท่องเที่ยวชอบมา
Louisiana Museum of Modern Art
อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยรอบนอกของโคเปนเฮเกนเช่นกัน ที่นี่มีไฮไลต์อยู่ที่งานประติมากรรมในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะงานประติมากรรมของ Louise Bourgeois ในรูปของแมงมุม ซึ่งถ้าใครเคยไป Roppongi Hills น่าจะเคยเห็นงานของศิลปินคนนี้มาก่อน
Nyhavn
ท่าเรือที่เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของโคเปนเฮเกนที่เรียบรายด้วยบ้านหลากสี ด้วยความเป็นท่าเรือที่จึงมีทั้งบาร์ ร้านอาหาร และคาเฟ่
Superkilen
สวนสาธารณะที่นักท่องเที่ยวชอบไปถ่ายรูปทำทรงกัน แบ่งออกเป็น 3 ส่วน The Red Square ,The Black Market และ The Green Park โดยเฉพาะโซนที่ 2 ที่เด่นด้วยเส้นสายของสีขาวสลับกับเนินสูงที่กลายเป็นมุมที่ Instagramable ที่สุดแห่งหนึ่งของโคเปนเฮเกน