
Aman Nai Lert Bangkok โรงแรมที่นิยามความหรูหราผ่านพื้นที่และความสงบนิ่ง
เรื่อง: พงศธร โกยสมบูรณ์
30 พฤษภาคม 2568
ท่ามกลางรายละเอียดแวววับและการออกแบบล้ำๆ อมัน (Aman) เลือกทางที่แตกต่าง สร้างนิยามของความหรูหราในแบบของตนเอง แบบที่ใครก็ยากจะเหมือน
ความหรูหราของอมันถูกบอกเล่าผ่านพื้นที่โล่ง เส้นสายเรียบตรง สีเข้ม และสัจวัสดุธรรมชาติ ทั้งหมดก็เพื่อจะสร้างพื้นที่แห่งความสงบนิ่ง ดังชื่อ ‘อมัน’ ภาษาสันสกฤตที่แปลว่า ความสงบ
แต่นอกจากพื้นที่และงานออกแบบมินิมัล โรงแรมของอมันจะมีสิ่งหนึ่งที่ใครก็ยากจะเหมือน นั่นคือ ‘ที่ตั้ง’
โรงแรมของอมัน ไม่ว่าจะแห่งใดในโลก จะตั้งอยู่ ณ สถานที่ที่ยากจะจินตนาการว่าจะมีโรงแรมมาตั้งอยู่ ทั้งยังกินพื้นที่กว้าง แต่เลือกจะวางห้องให้น้อย เช่น Amanjiwo ตั้งอยู่ ณ จุดที่มองเห็นโบราณสถานบุโรพุโธได้เต็มตา Amangiri ที่ตั้งอยู่ในดินแดนเวิ้งว้างในยูท่าห์ สหรัฐอเมริกา หรือ Aman Summer Palace ที่ตั้งอยู่ติดกับพระราชวังฤดูร้อนกรุงปักกิ่ง หรือแม้แต่ Amanpuri โรงแรมแรกของอมันที่เปิดในปี พ.ศ. 2531 ที่ภูเก็ต ก็มีพื้นที่ถึง 150 ไร่ สำหรับบห้องพัก 84 วิลล่าเท่านั้น



Aman Nai Lert Bangkok โรงแรมแรกในกรุงเทพฯ ของเครืออมัน ก็ดำเนินรอยตามขนบอมันแบบไม่ผิดเพี้ยนไปเลยสักนิด หนึ่ง คือตั้งอยู่บนพื้นที่สีเขียวเอกชนขนาดใหญ่ที่สุดในย่านใจกลางกรุงเทพฯ ตั้งเคียงกับเหล่าต้นไม้ในปาร์คนายเลิศ ที่ยืนต้นให้ร่มเงามากว่าร้อยปี สอง คือมีห้องน้อยมาก คือมีเพียง 52 ห้อง ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดเป็นสวีต
สาม คือให้พื้นที่กับความเป็นส่วนตัว เพราะห้องน้อยแต่ละห้องจึงมีพื้นที่ใหญ่มาก อย่างเช่นห้องที่เราพัก (ชั้น 12A) ก็ใหญ่ถึงราว 90 ตารางเมตร และการออกแบบเปิดโล่ง (open plan) ยิ่งทำให้ห้องยิ่งดูกว้างขวางแบบเราไม่อยากจะก้าวเท้าออกไปไหน
สี่คือการออกแบบที่ทำให้ Aman Nai Lert เป็นอมันที่เหมือนแต่ไม่เหมือนใคร Andre Fu ออกแบบโรงแรมนี้โดยคงเส้นสายเรียบแบบตะวันออกที่เป็นหัวใจของอมัน พร้อมเล่าประวัติศาสตร์ปาร์คนายเลิศผ่านงานศิลปะและองค์ประกอบต่างๆ ที่แทรกอยู่ทั่วพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะลอยตัวเต็มพื้นที่ผนังล็อบบี้รูปเลขหนึ่งไทย ที่สะท้อนถึงนายเลิศ (เลิศ เศรษฐบุตร) ที่เป็นผู้ริเริ่มหลากหลายกิจการและนวัตกรรมในไทย และยังจะเห็นโลโก้นายเลิศ ซ่อนตัวอยู่ในงานศิลปะจำนวนมาก



ยังมีประติมากรรมต้นจามจุรีคว่ำลอยตัวอยู่เหนือน้ำใจกลางล็อบบี้ ตัวต้นประดับใบจามจุรีสีทองหลายพันใบ เป็นงานประติมากรรมขนาดใหญ่ที่สร้างเพื่อระลึกถึงต้นจามจุรีอายุนับร้อยปีในปาร์คนายเลิศ เรื่อยไปจนในห้องพัก ที่งานตกแต่งไม้และลายน้ำไหล ตั้งใจให้ได้ความรู้สึกของการพักผ่อนอยู่ในสวนสวยที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์
ห้องพักขนาดใหญ่และเต็มไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เราเลยจะแนะนำให้คุณกินอาหารเช้าในห้อง ใช้เวลาส่วนตัวยามเช้ากับคนที่รัก ละเลียดฟองนมได้ในชุดนอน
แต่ถ้ารู้สึกอยากเปลี่ยนบรรยากาศ ห้องอาหาร Arva บนชั้น 9 ในตอนเช้าก็มีแสงอ่อนๆ รอต้อนรับ พร้อมกับเมนูอาหารเช้าสายสุขภาพที่อมันจริงจังมากๆ (ล่าสุดได้ Novak Djokovic มาเป็น global wellness ambassador)
ห้อง Arva นี้ในตอนกลางวันและเย็น จะเปลี่ยนเป็นห้องอาหารอิตาเลียน เสิร์ฟเมนูอิตาเลียนรสดั้งเดิมจากวัตถุดิบทั้งนำเข้าและท้องถิ่น ห้อง Arva นี้เป็นห้องซิกเนเจอร์ของอมัน ใกล้ๆ กันจะมีบาร์ 1872 Lounge ซึ่งตั้งชื่อตามปี ค.ศ. เกิดของนายเลิศ
ทั้ง Arva และ 1872 บนชั้น 9 นี้รับแขกที่ไม่ได้เข้าพักที่โรงแรมด้วยเช่นกัน ที่ต้องระบุอย่างนี้เพราะ Aman Nai Lert Bangkok มีชั้นพิเศษที่สงวนไว้เฉพาะแขกที่เข้าพักในโรงแรมและสมาชิกอมันคลับ นั้นคือชั้น 19


ชั้น 19 ของอมันที่สงวนให้เฉพาะแขกที่เข้าพักในโรงแรมและสมาชิกคลับนั้นมีอีก 2 ร้านอาหารและ 1 บาร์ คือ Sesui ห้องอาหารญี่ปุ่นแบบโอมากาเสะ Hiori ห้องอาหารญี่ปุ่นสไตล์เทปปันยากิ (ที่เราได้ลองแล้ว ใช้ได้) และ Aman Lounge บาร์ที่ดูแลโดย Michele Montauti บาร์เทนเดอร์ดังที่เคยปั้น The Loft ของ Waldorf Astoria Bangkok จนติดมาแล้ว
Aman Nai Lert Bangkok ยังมีสปาและศูนย์สุขภาพขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Aman Spa & Wellness ที่กำลังเก็บรายละเอียดขั้นสุดท้าย และพร้อมให้บริการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
โรงแรมเครืออมันนั้นให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวมาก การใช้บริการทุกส่วนของโรงแรมจึงต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น อาจจะไม่ตรงจริตใครหลายคน ก็อาจจะต้องปรับตัวกันสักนิด
Aman Nai Lert Bangkok ราคาห้องพักเริ่มที่ US$1,218 หรือราวสี่หมื่นบาท
- Aman Nai Lert Bangkok
ซอยสมคิด เพลินจิต
reservations@aman.com

เรื่อง
พงศธร โกยสมบูรณ์