พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซุมิดะ ได้รับการรีโนเวทใหม่ไปเมื่อประมาณ 1-2 ปีก่อน หลังจากเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2012 พร้อมกับ Tokyo Skytree ที่นี่ใช้ระบบผลิตน้ำทะเลเทียมทั้งหมด ถือเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งที่ 2 ในประเทศญี่ปุ่น ต่อจากพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเกียวโต และเป็นแห่งแรกในภูมิภาคคันโต ที่ใช้ระบบนี้

Sumida Aquarium ครอบคลุมพื้นที่ชั้น 5 และ 6 โดยออกแบบเส้นทางเดินแบบอิสระ ไม่ได้กำหนดเส้นทางเดินให้กับผู้เข้าชม ทำให้สามารถเลือกเดินไปตามจุดที่ชื่นชอบได้เลย แม้ว่าไม่ได้ใหญ่มาก และไม่ได้มีสัตว์น้ำที่หลากหลาย แต่ก็คัดเลือกเอาไฮไลต์มาให้ผู้เข้าชมได้โฟกัส

โซนแมงกะพรุน ที่เราว่าเป็นหนึ่งในไฮไลต์ ทั้งการเข้าชมวงจรชีวิตของแมงกะพรุน การเพาะพันธุ์แมงกะพรุน และการจัดแสดงแมงกะพรุนในอควาเรียมแบบเปิด ให้เราเข้าชมบ่อแมงกะพรุนที่เปลี่ยนแสงสีสะท้อนสีสันผ่านตัวแมงกะพรุนที่โปร่งใส นอกจากนี้ยังมีอุโมงค์กระจกที่จัดแสดงแสง สี เสียง และภาพเคลื่อนไหวของแมงกะพรุน คล้ายๆ นิทรรศการอิมเมอร์ซีฟของแมงกะพรุน

อีกโซนที่เด่นเคียงคู่กันคือ โซนเพนกวินและแมวน้ำ ชมเพนกวินสายพันธุ์ Magellanic และแมวน้ำพันธุ์ขนยาวจากอเมริกาใต้ ที่แหวกว่ายในตู้ปลาในร่มที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โดยเจ้านกเพนกวินจะขยับตัวเชื่องช้ามากบนโขดหิน จนเรานึกว่าของปลอม แต่เมื่อมันกระโดดลงน้ำกลับกลายเป็นจรวดที่พุ่งตรงแหวกว่ายไปอย่างรวดเร็ว

โซนใต้ท้องทะเล Ogasawara เป็นโซนยอดนิยม เพียงแต่ว่าสำหรับเรามันดูเล็กไปหน่อย แต่ทางพิพิธภัณฑ์ตั้งใจออกแบบโซนนี้ในธีมโลกใต้ท้องทะเลของหมู่เกาะโองาซาวาระ ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งเดียวของโตเกียว ที่มีทั้งฉลาม ปลากระเบน ฝูงปลา และพืชน้ำท้องถิ่น

และโซนสุดท้าย Edorium แสดงปลาทองขนาดย่อม ซึ่งถ้าอยากชมปลาทองจริงๆ เราแนะนำว่าไปที่ Art Aquarium Museum Ginza ที่ใหญ่และมีพันธ์ุปลาทองที่หลากหลายกว่า

นอกจากนี้พื้นที่รอบๆ ของชั้น 5 ยังทำเป็นพื้นที่คาเฟ่ให้เรานั่งกินดื่มไปพร้อมกับชมสัตว์น้ำของที่นี่ได้ ก่อนจบด้วยร้านขายของที่ระลึกบริเวณทางออก โดยเฉพาะของที่ระลึกที่นำเอาขยะจากทะเลมาทำในรูปแบบกาชาปองด้วย

Sumida Aquarium บนชั้น 5 และ 6 ของ Tokyo Skytree Town Solamachi เปิดทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10:00-20:00 และวันเสาร์-อาทิตย์ 9:00-21:00