เพื่อนๆ มีความทรงจำเกี่ยวกับฮ่องกงยังไงกันบ้าง? พอพูดถึงฮ่องกง หลายคนน่าจะนึกถึงซีนจากหนังหว่องกาไว เพลงจีนปนกลิ่นอาย city pop อาหารสตรีตฟู้ด หรือภาพการไหว้พระขอพร เมืองนี้ถึงมีพื้นที่ไม่กว้างนัก แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเรื่องราวที่น่าสนใจ

คราวนี้เรามีเวลาเพียง 24 ชั่วโมงในเกาะฮ่องกง เลยปักหลักอยู่ย่าน Central ใกล้สถานี Sheung Wan และออกเดินทางสำรวจทั้งของกิน คาเฟ่ และวัดดังแบบสั้นๆ แต่ครบเครื่อง ที่สำคัญคือทริปนี้ดันตรงกับช่วงที่ พายุ Ragasa กำลังจะเข้า ทำให้ยิ่งตื่นเต้นว่าจะเที่ยวครบหนีพายุก่อนกลับได้หรือไม่… ไปเริ่มทริปกันเลย!

Central คือย่านที่ใครๆ ก็ว่าของแพง แต่เต็มไปด้วยร้านเก๋ๆ และแลนด์มาร์กดัง อีกภาพจำของย่านนี้คือรถรางที่วิ่งไปมาทั่วเมือง บวกกับภูมิประเทศที่มีทั้งเนินและตึกสูงเรียงแน่น ทำให้ทุกมุมกลายเป็นฉาก “ฮ่องกงสไตล์” ที่ใครเห็นก็จำได้ทันที

หลังเก็บของเข้าที่พัก เรามุ่งหน้าไปยัง Man Mo Temple (วัดหมั่นโหมว) วัดเก่าแก่ประจำย่าน Sheung Wan จุดเด่นคือธูปขดเกลียวขนาดใหญ่แขวนอยู่เต็มเพดาน พร้อมแผ่นป้ายแดงให้ผู้คนเขียนขอพร

ธูปขดเหล่านี้สื่อถึงความต่อเนื่องและความศรัทธาที่ไม่มีวันสิ้นสุด วัดนี้ขึ้นชื่อเรื่องการขอพรด้านการเรียน การสอบ และความมั่งคั่ง อีกทั้งยังมีพิธีบวงสรวงประจำปีเพื่ออธิษฐานให้ฮ่องกงรุ่งเรือง

จากวัดเราเดินต่อไปยัง Vission Bakery เพื่อชิมเมนูดังช่วงนี้ “ทาร์ตพิสตาชิโอ” (68 HKD) แม้หน้าร้านจะกำลังปรับปรุง แต่ด้านในยังเปิดบริการเต็มรูปแบบ ขนมมีให้เลือกหลากหลาย เสียดายที่ทีรามิสุหมดไปแล้ว

ทาร์ตชิ้นใหญ่เนื้อครีมพิสตาชิโอเข้มข้น ไม่หวานจนเกินไป

ยังไม่อิ่มเลยแวะไปต่อที่ Cheung Hing Kee ร้านเสี่ยวหลงเปาทอดเจ้าดังรางวัล Bib Gourmand เมนูที่เราลองคือเสี่ยวหลงเปากุ้งหมูสับ 4 ลูก (62 HKD) แป้งด้านล่างกรอบ ด้านบนยังนุ่ม ซุปข้างในร้อนจี๋ตามสไตล์ฮ่องกง

เคล็ดลับการกินคือกัดรูด้านข้างก่อนซดน้ำซุป แล้วค่อยจิ้มกับจิ๊กโฉ่ว ถึงเราจะรู้สึกเปรี้ยวไปหน่อย แต่เติมพริกถั่วแล้วอร่อยพอดี รอบนี้รสทรัฟเฟิลหมูดันหมดแล้วเป็นอีกเมนูที่จะกลับมาลอง

เดินเล่นต่อมาเจอร้าน Mr Simms เต็มไปด้วยขนมอังกฤษแบบวินเทจ ทั้งเยลลี กัมมี ลูกวาด ทอฟฟี และช็อกโกแลตนับร้อยชนิด ทำให้เรานึกถึงบรรยากาศหมู่บ้านฮอกส์มีดใน Harry Potter (ที่เราเห็นเทปขาวแปะที่กระจก เป็นการเตรียมรับมือกับพายุของร้านรวงต่างๆ ในช่วงนั้น)

ตามตรอกซอกซอยในฮ่องกงจะมีตลาดสดและร้านขายของเล็กๆ ให้แวะตลอดทาง เราไปคุยเล่นกับอาม่าที่ขายของอยู่จนอดไม่ได้ที่จะซื้อเต้าเจี้ยวติดมือกลับบ้าน เหมือนอุดหนุนไปด้วย คิดถึงอาม่าที่บ้านไปด้วย

ก่อนกลับที่พักเราไปลอง Lau Haa Hot Pot Restaurant ร้านหม่าล่าลับๆ ใน Causeway Bay ตัวร้านอยู่ชั้นใต้ดิน บรรยากาศย้อนยุคเหมือนฮ่องกงยุค 80 น้ำซุปที่เลือก คือ หม่าล่าและซุปมะพร้าว เผ็ดร้อนหอมมัน อร่อยจัดเต็ม ร้านนี้แนะนำให้จองคิวก่อนไป

แลนด์มาร์กที่ไม่ควรพลาดคือ DROP BY DOUGH สาขา Central Hong Kong คาเฟ่โดนัทชื่อดังจากกรุงเทพฯ ที่เพิ่งเปิดสาขาแรกในฮ่องกง

บรรยากาศร้านเต็มไปด้วยงานอาร์ตคาแรกเตอร์แนวฮ่องกง เช่น เสี่ยวหลงเปา แท็กซี่ และตึกสูง เมนูพิเศษเฉพาะสาขานี้คือ Pistachioooooo และ Mango Kati ที่ทำขึ้นเพื่อเอาใจคนฮ่องกงโดยเฉพาะ เมนูอื่นๆ ที่เป็นซิกเนเจอร์ในกรุงเทพฯ ก็มีให้ลองชิมที่นี้เช่นกัน

ร้านตั้งอยู่ที่ The Central ใกล้สถานี Sheung Wan เปิดทุกวัน 08:00–19:00

24 ชั่วโมงในฮ่องกงอาจดูสั้น แต่เต็มไปด้วยเรื่องราวและรสชาติที่น่าจดจำ หากมีโอกาส ลองจัดทริปสั้นๆ แบบนี้ดู แล้วคุณอาจตกหลุมรักเสน่ห์ของเมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งนี้เหมือนเรา