โหมโรง เดอะ มิวสิคัล 2568 คือการรีสเตจในรอบ 10 ปีของละครเวทีที่เคยสร้างความประทับใจให้คนดูเมื่อปี 2558 และยังเป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของทีมงานเดิมแทบจะยกเซ็ต ทั้งนักแสดง นักดนตรี และทีมงานเบื้องหลัง ซึ่งเป็นความตั้งใจของผู้กำกับที่อยากถ่ายทอดผลงานมาสเตอร์พีซสู่สายตาคนดูด้วยบรรยากาศเดิม เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเคยดูตั้งแต่เวอร์ชันหนังปี 2004 เวอร์ชันละครเพลงเมื่อ 10 ปีที่แล้ว หรือยังไม่เคยดูเวอร์ชันไหนมาก่อนเลย ทุกคนก็จะยังคงได้รับประสบการณ์ที่น่าประทับใจเช่นเคย

ละครเพลงเรื่องนี้สร้างจากบทประพันธ์ของ ‘อิทธิสุนทร วิชัยลักษณ์’ ผู้กำกับเวอร์ชันหนัง โดยได้รับแรงบันดาลใจจากชีวประวัติของ ‘หลวงประดิษฐไพเราะ’ (ศร ศิลปบรรเลง) บรมครูดนตรีไทยผู้สร้างรากฐานให้ดนตรีไทยดำรงอยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย

การดำเนินเรื่องจะแบ่งเป็น 2 เส้นเรื่อง คนดูจะได้เห็นการต่อสู้ของนายศรตั้งแต่วัยหนุ่มที่ต้องต่อสู้กับความรู้สึกภายในของตัวเองขณะก้าวเดินอยู่บนเส้นทางนักดนตรี และ ‘ท่านครู’ หรือนายศรในวัยชราที่ต้องต่อสู้กับอำนาจรัฐในยุคนั้นที่ต้องการให้ประเทศศิวิไลซ์และมองว่าดนตรีไทยเป็นเรื่องล้าหลัง

อารมณ์ของละครมีความจริงจังแต่ไม่ถึงกับหนักหน่วง ซึ่งนักแสดงนำอย่าง อาร์ม-กรกันต์, ตู่-นพพล และ จ๋าย อิชณน์กร ต่างถ่ายทอดได้อย่างไร้ที่ติผ่านอิริยาบถและจังหวะการแสดงที่เป็นธรรมชาติ และยังมีฉากเรียกรอยยิ้มคั่นเป็นช่วงๆ ที่มาพร้อมกับการปรากฏตัวของ ‘พี่ทิว’ ที่รับบทโดย เบิร์ธ-ณัฐชัย เป็นนักแสดงอีกคนที่ต้องชมเพราะจังหวะดีและเล่นได้ตลกธรรมชาติมาก

เรื่องฉากบนเวที แม้จะไม่ถึงกับอลังการ แต่เทคนิคการนำเสนอในหลายๆ ฉากก็ถือว่าว้าวและเรียกเสียงปรบมือจากคนดูได้ไม่น้อย แต่ที่สำคัญกว่าคือการเล่าเรื่องผ่านภาษาเพลงที่สละสลวย เสียงร้องที่สื่อความหมายชัดทุกคำ และดนตรีแสนไพเราะ แค่นี้คนดูก็ไม่อาจละสายตาจากเวทีได้แล้ว

ไฮไลต์ของเรื่องคือฉากประชันระนาดระหว่างนายศรกับขุนอินในช่วงท้ายเรื่องที่ให้ความรู้สึกราวกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าไม่ใช่การแสดง แต่คือการประชันกันอย่างดุเดือดของ 2 มือระนาดชั้นครู ซึ่งคนที่ทำได้ขนาดนั้นก็ต้องเป็นทั้งนักแสดงและนักดนตรีมืออาชีพอย่าง อาร์ม-กรกันต์ และ เบิ่ง-ทวีศักดิ์ ในบท ‘ขุนอิน’ เท่านั้นจริงๆ

ทั้งหมดนั้นสามารถขมวดได้ว่า โหมโรง เดอะ มิวสิคัล 2568 คือละครเพลงที่ครบเครื่อง ทุกองค์ประกอบในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น การแสดง บทเพลง และดนตรี สอดประสานกันอย่างประณีตและถ่ายทอดสู่คนดูอย่างทรงพลัง